ครูสร้อย ติวสอบสัมภาษณ์ | Mock Interview | รวมคำถามสอบสัมภาษณ์ คอร์สติวเข้มสำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษเข้าหลักสูตรนานาชาติ ทั้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และ มหิดล ภาคอินเตอร์ BBA EBA BE BASCII BALAC BEC COMMARTS BJM INDA COMMDE JIPP BC BSI LLBEL ดำเนินการสอนโดย ครูสร้อย และทีมครูผู้สอนจบสายตรงจากคณะต่างๆ ประสบการณ์สอนกว่า 10 ปี

รีวิวเทคนิคการทำพอร์ต BC (BEC) TU ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อมิ้นนะคะ จบมาจากโรงเรียนสตรีทุ่งสงนะคะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตอนนี้กำลังจะกลายเป็นเฟรชชี่ปี 1 คณะ Business Communication of Thammasat University นั่นเองค่ะ ซึ่งวันนี้นะคะพี่จะมาบอกเคล็ดลับและเทคนิคที่ทำให้พี่ติด BC รอบ Portfolio นั่นเอง อยากรู้แล้วใช่ไหมเป็นอย่างไร ไปอ่านกันเลยค่ะ

ทำไมต้อง BC TU ?

ทำไมพี่ถึงเลิกเรียนคณะนี้นะคะ เหตุผลหลักๆเลยก็คือพี่ชอบภาษาอังกฤษมาก คือเป็นคนที่รู้สึกตั้งแต่เด็กๆ เวลาเรียนภาษาอังกฤษพี่รู้สึกว่า พี่ Enjoy มากๆ แล้วก็ชอบมากกว่าการเรียนวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ต่างๆนานานะคะ ซึ่งจริงๆแล้วคณะที่มีเกี่ยวกับภาษามันมีเยอะมากจริงๆทุกคน แต่อีกจุดหนึ่งที่ทำให้พี่เลือก BC คือพี่ชอบธุรกิจด้วย คือพี่เป็นคนที่ชอบดูรายการพวก Business มากๆ อย่างพวก Shark tank ของอเมริกาหรือของไทย คือพี่ดูมาหมดแล้วพี่ชอบ ชอบมากเป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับ Business Trend พี่รู้สึกว่ามันรู้สึกได้อัพเดทอยู่ตลอดเวลา แล้วอีกอย่างหนึ่งก็ชอบการ Plan การจัดการ การ Manage คือชอบมากๆนะคะ ก็เลยตัดสินใจเลือกคณะนี้นะคะ เพราะคิดว่าน่าจะเป็น The Best ที่สุดแล้วนะคะ

Step 1 ของการทำ Portfolio

Step แรกของการทำพอร์ตนั่นก็คือการหาผลงานมาใส่ Portfolio นั่นเอง คุยมาถึงตรงนี้น้องๆหลายๆคนอาจจะกำลังกังวลหรือเครียดนะคะ กับผลงาน เราไม่มีผลงานเลย หรือรู้สึกผลงานเราน้อยจังเลยจะติดไหมนะคะ อยากให้น้องๆทุกคนใจเย็นๆนะคะ อย่าเพิ่งกังวลพี่ผ่านมาแล้ว ตอนแรกพี่ก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน แต่จริงๆถ้าเราวางแผน แล้วก็มีไกด์ไลน์ที่ดีในการทำผลงาน สร้างผลงานใหม่ๆ มันทำให้เรามีผลงานเยอะมากขึ้นมากๆเลย เด่นๆหลักๆของพี่ ก็จะเป็นการที่พี่ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา ส่วนที่เหลือก็จะเป็นผลงานไปค่ายไปจิตอาสา เป็นผลงานเล็กๆที่สุดท้ายแล้ว เราสามารถมาเขียนแล้ว Related กับคณะได้เฉยเลยนะคะ อยากให้ทุกคนไม่ต้องเครียดก่อน อย่างน้อยมีเวลาเก็บพอร์ต ซึ่งคาบแรกที่พี่เรียนกับพี่สร้อยพี่สร พี่ๆก็จะช่วยพี่ลิสต์ผลงานต่างๆที่มีว่า มันเหมาะกับคณะไหม หรือเกี่ยวข้องกับคณะไหม 4 ด้านของ BC ที่เขากำหนดมาให้แล้ว ก็จะมีเป็น Business and Management Skills มี Language and culture มี Green Living and sustainability แล้วก็มีเป็น The World of Digital Communication and Technology ซึ่งพอพี่ๆเขาช่วยลิสต์ช่วยดูให้ เขาก็จะบอกพี่ได้แล้วว่า พี่ต้องไปทำผลงานไหนเพิ่ม ด้านไหนที่ขาดพี่ต้องไปทำเพิ่ม

Step 2 ของการทำ Portfolio

Step ที่ 2 นั่นก็คือ การ Organise ผลงานและการเลือกรูปนะคะ พอพี่เริ่มมีผลงานแล้ว พี่สร้อยพี่สรเขาก็จะมาช่วยดูว่า ผลงานที่พี่มีควรจัดอยู่ในประเภทไหน ควรอยู่ในกรุ๊ปไหน ช่วยดูลำดับ ต่างๆ เพื่อที่เวลาที่มาเลี้ยงรูปเล่ม ผลงานเราจะได้ดูสวย อันไหนเด่นกว่า อันไหนเด่นน้อยกว่า ก็จะทำให้กรรมการไม่งงนะคะ แล้วก็ช่วยในการเลือกรูปนะคะ รูปไหนที่เราควรใช้ รูปไหนที่ไม่ควรใช้ ซึ่งพี่แนะนำว่ารูปที่คนใช้ ควรจะเป็นโรคที่เห็นเราทำจริงๆ คือเห็น Action ของเรา ในการทำ Activity นั้นจริงๆนะคะ เขาจะได้เห็นว่านี่ไงเราทำจริงๆนะคะ ไม่ใช่เป็นรูปกลุ่มใหญ่ๆ แล้วมีหน้าเราอยู่กับจึ้งนึง มันทำให้ไม่ได้เห็น Action ของเราจริงๆว่า เราทำงานนั้นจริงๆไหม

Step 3 ของการทำ Portfolio

Step ที่ 3 นั่นคือการเขียน Portfolio นั่นเองนะคะ พี่จะบอกเลยว่ารูปดี ผลงานดี แต่เขียนไม่ดีเท่ากับบ้งนะคะ ไม่ติดนะจะบอกเลย ซึ่งพี่จะแบ่ง Part การเขียนของพี่ออกเป็น 2 Part ก็คือ 1.การเขียน SOP หรือที่ทุกคนรู้กันว่า Stage Of Purpose นั่นเอง ซึ่งพี่รู้สึกว่า Part นี้มันคือการแนะนำตัวเองก่อนที่เขาจะไปดูผลงานเรา พี่สร้อยพี่สรเขาก็ช่วยกันไกด์ แล้วก็บอกเทคนิคการเขียนดีมาก จนออกมาเป็น SOP ในเวอร์ชั่นที่โอเคดีมาก จริงๆคือแก้แล้วแก้อีก แก้เยอะมากนะคะ การเขียน Reflection หรือ Description ใต้ผลงานนั่นเองนะคะ ซึ่งจะบอกว่าปีของพี่ Template ของ BC ค่อนข้างจะแตกต่างจากปีอื่นๆนะคะ เพราะว่าเขามีให้เขียนถึง 2 หัวข้อนะคะ คือ A brief overview of the activity แล้วก็มีเป็น How this activity is related to Business Communication Program? ซึ่งตอนนั้นคืองงตาแตก เราต้องทำยังไงต้องเขียนยังไง? แต่จริงๆพี่สร้อยพี่สรช่วยบอกเทคนิคการเขียนให้ดูน่าสนใจว่าเราต้องเขียนยังไง ซึ่งจะทำให้ผลงานเราดูเด่นขึ้นมาอีก ซึ่งจะบอกว่าพี่แก้หลายรอบมาก แก้จนจะร้องไห้แล้วค่ะ เพราะว่าแก้แล้วแก้อีก ถ้าไม่เป๊ะพี่สร้อยพี่สรไม่ปล่อยผ่านนะคะ

Step 4 ของการทำ Portfolio

Step ที่ 4 นะคะ การส่งพอร์ตให้พี่สร้อยพี่สรช่วยตรวจ นั่นเองนะคะ จะบอกว่าของพี่คือเช็คแล้วเช็คอีก แก้จนกว่าจะเป็น The best of version กว่าจะเป็น The best ของพี่ได้คือ แก้จนจะถึงเดดไลน์อยู่แล้วนะคะ กว่าจะได้ส่ง คือจะบอกว่าถ้าได้เรียนกับพี่สร้อยพี่สรไม่ต้องห่วงเลย พี่สร้อยพี่สรเขาเช็คให้ ตั้งแต่ Ideas Grammar Organization ทุกอย่างนะคะ เช็คให้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเลย คือช่วย Prove ให้เราดีมากๆนะคะ พี่รู้สึกว่าตรงนี้พี่โอเคมาก มันทำให้พี่มั่นใจขึ้นก่อนที่จะส่ง

สรุปเทคนิคการติดรอบ Portfolio

สรุปเทคนิคการติดพอร์ตฉบับพี่นะคะ การทำ Portfolio ผลงานรูปภาพและการเขียน Reflection สำคัญมากๆ รวมถึง SOP ด้วย อยากให้ทุกคนโฟกัสทุกอย่าง ให้มัน Perfect 100% คือไม่อยากให้พลาดตรงไหนเลยนะคะ เพราะพอร์ตเป็นตัวสำคัญเลยว่า เขาจะเลือกเรา เขาจะสนใจเราแล้วอยากคุยกับเราต่อไหมนะคะ ส่วนข้อที่ 2 ก็คือการสัมภาษณ์นะคะ การสัมภาษณ์พี่แนะนำว่าซ้อมทุกวัน แล้วก็ซ้อมเป็นประจำ พี่ซ้อมบ่อยมากๆเป็นเดือนที่พี่ซ้อมนั่งพูดคนเดียว นั่งพูดในกระจกคนเดียวนะคะ มันสำคัญมากการที่เรา Practice อยู่ตลอดเวลา มันทำให้เรา Improve skill ของเราได้จริงๆ แล้วพี่ก็รู้สึกว่าเวลาไปต่อหน้าคณะกรรมการ ยิ้มเยอะๆ ไม่ว่าจะในหัวคือคำถามอะไร แต่อยากให้ทุกคนยิ้ม แล้วก็ทำหน้าตาใสซื่อ ดูมุ่งมั่น คือให้อาจารย์เขาเห็นว่าเราตั้งใจจริงๆ ที่เราอยากจะเข้าคณะนี้ แล้วอีกเรื่องนึงที่อยากจะฝากคือติดตามข่าวสารพวก Business Trend เอาไว้ด้วยนะ เพราะบางทีอาจารย์อาจจะถามขึ้นมาก็ได้นะคะ

Review สอบติดคณะในฝัน จากลูกศิษย์

Scroll to Top