ครูสร้อย ติวสอบสัมภาษณ์ | Mock Interview | รวมคำถามสอบสัมภาษณ์ คอร์สติวเข้มสำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษเข้าหลักสูตรนานาชาติ ทั้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และ มหิดล ภาคอินเตอร์ BBA EBA BE BASCII BALAC BEC COMMARTS BJM INDA COMMDE JIPP BC BSI LLBEL ดำเนินการสอนโดย ครูสร้อย และทีมครูผู้สอนจบสายตรงจากคณะต่างๆ ประสบการณ์สอนกว่า 10 ปี

รีวิวเตรียม Portfolio + Interview CommArts เทคนิคมัดใจกรรมการโดยรุ่นพี่คณะ

ในตอนนี้เราก็สอบติด CommArts จุฬา เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ เราก็จะมาแชร์ให้ทุกคนได้ฟังกันถึงการเตรียมตัวก่อนที่จะไปสอบติด CommArts ก่อนอื่นมาดูเกณฑ์คะแนนกันก่อนเลย

ทำไมต้อง  CommArts ?

ภาพด้านบนเป็นเกณฑ์คะแนนสำหรับน้องๆ ที่อยากยื่นสมัคร ไม่เพียงแค่มีผลสอบ SAT IELTS ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องมีคะแนน Portfolio และ Interview ด้วยนะคะ

ส่วนเหตุผลที่เราเลือกเรียน CommArts คือจริงๆตอนแรก เราไม่ได้จะเข้าขณะนี้แต่แรก แต่เราไป BBA BALAC อย่างนี้มาแล้ว แต่พอเราขึ้นม. 6 เรามาช่วยเพื่อนทำงานปัจฉิมที่โรงเรียน เราก็รู้สึกว่านิเทศน่าสนใจ เราก็เลยมาดูพวกคณะใหม่อีกรอบนึง แล้วเราก็มาเจอว่า CommArts เรียนทุกอย่างของนิเทศเลย ซึ่งคือเราเป็นคนที่ไม่ได้อยากเรียนอะไรอย่างเดียวนานๆ แบบนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าคณะนี้มันใช่เรามาก เป็นเหมือนนิเทศกึ่งบริหารด้วย มันตอบโจทย์เราสุดๆ ก็เลยปักคณะนี้เลย

เริ่มต้นทำ CommArts Portfolio อย่างไร?

ประสบการณ์การทำพอร์ต ในส่วนของ Process ช็อคเหมือนกันตอนที่ได้ตัวข้อมูลมา เราก็เริ่มคิดงานในวันนั้นเลย แล้วเราก็คิดออกมาหลายๆอย่างมาก ทุกๆอย่างทุกๆ Part ตัวพอร์ต SOP หรือ Creative work มีมากกว่า 5 แบบ วิดีโอ อินโฟกราฟิก ภาพ เราทำหมดเลยทุกอย่างอะไรที่ทำได้เราก็ลองทำหมดเลย เราก็ทำๆถูไถอะไรของเราไปเรื่อยๆ จนพอโอเคเรียนกับพี่ๆใช่ไหม พี่สร้อย พี่สร ก็ช่วยเช็คพอร์ตเช็คอะไรให้ แก้ระเบิดระเบ้อ พอแก้เสร็จไป Workshop อีก ของพี่ๆในเรื่องของการทำพอร์ต เราก็ทบทวนตัวเองอีกครั้ง แล้วก็แก้อีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง แก้ไปเรื่อยๆ จนเราก็ส่งให้พี่เขาดู พี่เขาก็นัดวัน One on one เลย ตัวต่อตัว แล้วก็แก้ ก็เหมือนส่งไปส่งกลับมาเรื่อยๆ มาจนกระทั่งเขาเปิดให้ยื่นได้แล้ว ใบสมัครให้ยื่นได้แล้ว เราทุ่มตรงนี้ค่อนข้างเยอะ เพราะว่าคะแนนเราน้อย เราก็ไปทุ่มกับพอร์ตให้มันดีที่สุด

แชร์เทคนิคการทำ Portfolio ให้สอบติด

เทคนิคการทำพอร์ตที่เราอยากจะแนะนำให้กับน้องๆนะคะ คือการลองทำทุกอย่างให้ครอบคลุมคือหมายถึง Activity อะไรก็ตามที่น้องมีโอกาสได้ทำ หรือมีโอกาสเข้ามา อยากจะให้น้องลองทำให้หมดเลยทุกอย่าง ไม่ว่าด้านนั้นจะเป็นด้านที่น้องรู้สึกว่าอาจจะไม่ถนัดมาก หรืออาจจะรู้สึกว่าไม่ใช่ Way เราเท่าไหร่เลย แต่ก็ให้น้องไปลองทำเอาไว้ก่อน ให้มีผลงานตรงนั้น มีประสบการณ์ตรงนั้น เพราะว่าพอเราวันที่ต้องมาทำพอร์ตจริงๆ เราจะสามารถเปรียบเทียบได้ว่าบางทีเราคิดแค่ว่าแค่นี้มันพอแล้ว แต่ว่าพอมาประกอบพอร์ตจริงๆ อาจจะไม่เวิร์คขึ้นมาก็ได้ ฉะนั้นก็อยากจะให้น้องๆมีหลายตัวเลือก เพราะนอกจากมันจะเอาไปใส่พอร์ตได้แล้ว มันยังเอาไปพูดตอนสัมภาษณ์ได้อีก เพราะว่ากรรมการเขาก็ต้องถามเกี่ยวกับตัวเรา ถ้าเกิดว่าเราได้ทำอะไรหลายๆอย่าง มีความรู้รอบตัวเยอะ มันจะช่วยการสัมภาษณ์ได้มากๆ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งก็คือมีตั้งเวลา กำหนดเวลาขอบเขตตัวเองให้ชัดเจน ก็ให้ยึดตามนั้น เพราะเรารู้สึกว่าการที่เราทำอะไรอย่างมีขั้นมีก่อน มันแบ่งอะไรไว้ชัดเจน เวลามันมีเหตุการณ์คับขันต้องทำ มันจะมีเวลามากพอให้เราได้แก้ ซึ่งเราก็คิดว่าตรงนี้เป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะเราตั้งใจไว้แล้วว่าเราจะทำพอร์ตทำอะไรให้มันเสร็จก่อนการยื่นสักพักหนึ่ง เพื่อที่เรารู้ถึงว่าสุดท้ายแล้วเราอยากจะแก้ตรงนี้อีก มันจะได้มีเวลาทัน ก็จะได้ไม่ต้องมาลุกลวกส่งพอร์ตวันสุดท้าย ซึ่งมันเสี่ยงมากที่เขาจะปิดรับแล้ว เหตุผลที่ตัดสินใจเรียนทำ Portfolio เพราะว่าหนึ่งคือความถูกชะตา รุ่นพี่ปีก่อนๆที่เขารีวิวเราก็รู้สึกว่าพี่สร้อย พี่สร มีผลงานการันตีมาก แล้วพี่ๆเขาก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพอได้พี่สร้อย พี่สร ที่พี่ช่วยให้สอบติดได้ เราก็เลยไปปรึกษาแม่ สุดท้ายแม่ก็เลยตัดสินใจให้ว่าเรียนไปเถอะ อะไรที่จะเพิ่มเปอร์เซ็นต์การสอบติดให้เราก็คือเรียนไปเถอะ มีโอกาสคว้าไว้ก็โอเค ตัดสินใจเรียนเดี๋ยวนั้นเลยค่ะ

เตรียม Interview เป็นอย่างไรบ้าง?

ตอนเรียนในคลาส Interview คือตอนแรกเลยนะ เราก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่า มันจะเวิร์คไหม เพราะมันเรียนเป็นกลุ่มกับการถูกสัมภาษณ์ที่ต้องใช้คำตอบที่มัน Unique ของเราเองอย่างนี้ แต่ว่าพอได้มาเรียนจริงๆคือมันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย คือต่อให้เรียนเป็นกลุ่ม แต่เรียนเป็นกลุ่ม ณ ที่มีหมายถึงว่า เราแชร์ความรู้แบบรับรู้ด้วยกันพร้อมกัน กับพี่ๆเขาให้ทุกคนได้ Interact ตอบคำถามทีละคนเลย ซึ่งคำตอบเราก็จะไม่เหมือนกัน หรือว่าต่อให้เหมือนเราก็จะได้ฟังของเพื่อนก็คือ ขอเป็นการเปิดหูเปิดตานะ แล้วเราก็ได้คิดตามด้วยว่า ที่เขาพูดมามันน่าคิดตามนะ หรือว่ามันจริง มันเอาไปต่อยอดอะไรได้ ก็คือเราก็ได้แชร์คำตอบได้เรียนด้วยกันเหมือนเรียนในห้องแบบนี้ คือต่อให้มันเป็น Zoom มันก็ยังรู้สึกสนุก บวกกับชีทเอกสารที่พี่ๆเขาส่งให้ ก็น่าเรียนมากๆ มันยิ่งตอกย้ำว่าเราอยากเรียนขนาดนี้ คือข้อมูลที่พี่เขาสอนมา นอกจากจะใช้ในการสัมภาษณ์ ยังใช้ต่อในชีวิตประจำวันได้ หรือยังเก็บไว้ใช้ต่อเรียนได้ด้วย เพื่อนๆที่เราเรียนพร้อมกัน แล้วเราก็ไปเจอกันในคณะกันจริงๆนะ เจอแทบจะทั้งหมดเลย แล้วก็จะได้ Make friends กัน ได้อะไรกันก็กลายเป็นกลุ่มเพื่อน กลายเป็นกลุ่มเป็นก้อนกัน คือนอกจากจะได้ความรู้เอาไปใช้สัมภาษณ์แล้ว ก็ยังจะได้เพื่อนใหม่อีกด้วยนะคะ

Mock interview สำคัญมากๆ

ก่อนจะไปสัมภาษณ์จริงเราก็ต้อง Mock interview มันคือความกดดันที่เราควรจะพบเจอก่อนที่จะได้ไปสัมผัสจริง เพราะว่าพอเราคุ้นชินกับบรรยากาศ มันก็จะทำให้เราไม่ได้โลภมาก ตอนที่เราไปสัมภาษณ์กับกรรมการจริงๆ ก็คือเราก็ได้ Mock interview กับพี่ๆเขาใช่ไหม พอเราผ่านการ Mock ไปแล้ว เราจะรู้ว่าเราผิดพลาดตรงไหนบ่อย หรือว่าเราควรจะแก้อะไร อย่างของเราคือโดนแก้ว่า เราพูดแต่ Definition แต่ไม่ยกตัวอย่างไม่เล่าตัวเอง ไม่ขายตัวเองให้กรรมการเขาฟังเลย ฉะนั้นเราก็ต้องไปปรับตรงนี้เพื่อที่จะให้เราดึงความสนใจของกรรมการได้ ฉะนั้นการ Mock interview เป็นอะไรที่จำเป็นมากๆ เราจะได้รู้ตัวก่อนที่เราจะไปสัมภาษณ์ เดี๋ยวจะไปปล่อยไก่ ไปพลาดตอนสัมภาษณ์จริง อยากให้ทุกคนได้ลอง Mock interview ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์จริงด้วยนะ มันสำคัญมากค่ะ

ฝากถึงน้องๆ ที่อยากสอบติดคณะในฝัน

สิ่งที่เราอยากจะฝากถึงน้องๆที่อยากจะเข้า CommArts ทุกคน คือเราเข้าใจว่าตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับหลายๆคน หรืออาจจะทุกคนเลยก็ได้ เพราะว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ใช่ไหม แต่ก็ไม่เป็นไรอย่าไปอะไรกับมันมาก เชื่อมั่นในตัวเองเอาไว้ว่าเราทำได้ เราต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองเอาไว้ก่อนว่าเราจะทำได้ เพราะว่าความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะ อย่างเราท่องไว้เสมอเลยว่า เราจะต้องพยายามทำ ต่อให้มันดูริบหรี่มากเลย ต่อให้เรารู้สึกว่าเราทำมันไม่ได้เลย เราพยายามก่อน เราขอ 50% จากการพยายามทำของเราให้มันมาอยู่ในมือเรา เพราะว่า 50% นั้นมันคือเปอร์เซ็นต์ที่เราอาจจะสอบติดก็ได้ เพราะฉะนั้นฮึดต่อไปดับเครื่องชนไปเลย เราจะทำได้ เชื่อใน Power เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ว่าใครจะว่าอะไร ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม ขอให้น้องๆทุกคนเชื่อมั่นในตัวเองเอาไว้เสมอ แล้วก็ภูมิใจตัวเองเอาไว้เยอะๆ เพราะว่าการจะมาถึงตรงนี้ มัน Challenging มากๆนะ มันกดดัน มาถึงตรงนี้ได้สุดยอดมากๆแล้ว เก่งมากๆทุกคน ก็ขอให้น้องๆทุกคนโชคดี สามารถผ่านการทำพอร์ต การเตรียมคะแนนไปได้อย่างราบรื่น เป็นไปตามที่ตัวเองคาดหวัง ตามที่ตัวเองได้มุ่งมั่นเอาไว้ทุกประการเลยนะคะ แล้วก็ขอให้น้องๆวันจริงเจอกรรมการที่ใจดี ถูกชะตากับทุกคน แล้วก็ได้เจอคำถามที่เราทุกคนตอบได้แล้วก็แฮปปี้ที่จะตอบ ขอให้น้องๆทุกคน Enjoy กับการตอบสัมภาษณ์ เพราะว่าถ้าเรา Enjoy มันจะใช่มากๆ เพราะฉะนั้นเราควร Enjoy กับมัน นอกจากความพยายามโชคก็เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีมากๆ แล้วมาเจอกันในคณะนะคะ หวังว่าจะได้เจอทุกคนเลยนะ

Review สอบติดคณะในฝัน จากลูกศิษย์

Scroll to Top